02-869-7779

hours : mon - sat 08.30 - 17.00

WIDE-FLANGE – เหล็กไวด์แฟรงค์

รายละเอียดสินค้า

เหล็กไวด์แฟรงค์ หรือที่เรียกกันก็คือ WIDE FLANGE ในภาษาอังกฤษ เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อน สำหรับงานโครงสร้างเหล็กโดยเฉพาะ และมีรูปร่างสวยงามในงานก่อสร้างอีกทั้งยังให้ความคงทนสูงเพราะมีความแข็งแรงมาก เหมาะสำหรับงานโครงสร้าง ก่อสร้างโรงงาน สร้างโกดังขนาดใหญ่ และงานเชื่อม จะมีชื่อเรียกคล้ายกับเหล็กเอชบีม คือ ตัวเฮช เหล็กเสา เหล็กปีก เสาบีม โดยเหล็กไวด์แฟรงค์ จัดเป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (Hot rolled structural steel)

มีลักษณะรูปทรงที่คล้ายกับเหล็กเอชบีม และเหล็กไอบีม แต่เหล็กไวด์แฟรงค์ จะมีความกว้างของแผ่นตรงกลาง มากกว่าปีกทั้ง 2 ข้าง และมีขนาดบางกว่า แต่ยังคงความแข็งแรง ทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี

สำหรับประเทศไทยเกรดส่วนใหญ่ที่ได้นำไปใช้งานคือ SS400,SS540 ลักษณะพิเศษของเหล็กไวด์แฟรงค์ ต่างจากเหล็กไอบีมคือส่วนของปีกเหล็ก และโคนปีกนั้นจะหนาเท่ากัน ดังนั้นจะสังเกตุได้ว่ามี รัศมีหรือ R เพียงตัวเดียว

มาตรฐาน

ประเทศไทยได้กำหนดมาตรฐานเพื่อควบคุมคุณภาพ มาตรฐานที่ใช้อ้างอิงคือ มอก. 1227-2558 (2015)

GRADE : SS400 SS490 SS540 SM400 SM490 SM520

มีความยาวให้เลือกตั้งแต่ 1 เมตร, 6 เมตร, 9 เมตร, 12 เมตร

Description

เหล็กไวด์แฟรงค์ นิยมในงานโครงสร้าง ซึ่งนำมาใช้แทนโครงสร้างคอนกรีต เพราะการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ลดขั้นตอนการทำงาน การดูแลรักษาที่ทำได้ง่ายกว่า และมีสไตล์ที่โดดเด่นกว่า สามารถการรับแรงในแนวต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยน้ำหนักที่เบากว่าโครงสร้างคอนกรีต เหมาะสมโครงสร้างทั่วไป ทั้งในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ เสา คาน ไวด์แฟรงก์ที่มีมาตรฐานต้องได้รับ มอก. และยังสามารถออกแบบงานสถาปัตยกรรมได้หลากหลายเช่น ตัดโค้ง ทำใครงสร้างโปร่ง หรือทำส่วนยื่่นได้มาก

ข้อดีของการใช้เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน
  • ลดระยะเวลาการก่อสร้าง ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยของโครงการ เปิดใช้งานได้รวดเร็ว
  • เตรียมงานจากโรงงานได้ และใช้แรงงานน้อยกว่าการก่อสร้างด้วยระบบอื่น
  • ออกแบบโครงสร้างให้มีช่วงเสากว้าง กว่าโครงสร้างระบบอื่น ไม่เปลืองพื้นที่ใช้งาน
  • ออกแบบงานสถาปัตยกรรมได้หลากหลายเช่น ตัดโค้ง ทำใครงสร้างโปร่ง หรือทำส่วนยื่่นได้มาก
  • โครงสร้างมีน้ำหนักเบา ทำให้ประหยัดฐานราก ลดการขนส่ง และพื้นที่กองเก็บวัสดุ
  • ตรวจสอบ ควบคุมคุณภาพ และบำรุงรักษาได้สะดวกกว่าโครงสร้างอื่น
  • มีความแข็งแรง สามารถรับแรงสั่นสะเทือนและแผ่นดินไหว ได้ดีกว่าโครงสร้างระบบอื่น
  • ก่อสร้างในที่จำกัดได้สะดวก ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะฝุ่น
  • ดัดแปลง ต่อเติม หรือรื้อไปสร้างใหม่ได้ ไม่ต้องทุบทิ้ง
  • สามารถนำวัสดุมาหมุนเวียนได้ 100%
PRODUCT SPECIFICATION
Nominal Size
Standard Sectional Dimension
Weight
H
B
t1
t2
r
mm
mm
mm
mm
mm
mm
kg/m
kg/6m
kg/9m
kg/12m
100×50 100 50 5 7 8 9.3 55.8 83.7 111.6
150×75 150 75 5 7 8 14 84 126 168
150×100 148 100 6 9 11 21.1 126.6 189.9 253.2
200×100 198 99 4.5 7 11 v 18.2 109.2 163.8 218.4
200×100 200 100 5.5 8 11 21.3 127.8 191.7 255.6
200×150 194 150 6 9 13 v 30.6 183.6 275.4 367.2
250×125 248 124 5 8 12 25.7 154.2 231.3 308.4
250×125 250 125 6 9 12 v 29.6 177.6 266.4 355.2
300×150 298 149 5.5 8 13 32 192 288 384
300×150 300 150 6.5 9 13 36.7 220.2 330.3 440.4
300×200 294 200 8 12 18 * 56.8 340.8 511.2 681.6
300×200 298 201 9 14 18 65.4 392.4 588.6 784.8
350×175 346 174 6 9 14 v 41.4 248.4 372.6 496.8
350×175 350 175 7 11 14 49.6 297.6 446.4 595.2
350×175 354 176 8 13 14 * 57.8 346.8 520.2 693.6
350×250 336 249 8 12 20 69.2 415.2 622.8 830.4
350×250 340 250 9 14 20 79.7 478.2 717.3 956.4
400×200 369 199 7 11 16 v 56.6 339.6 509.4 679.2
400×200 400 200 8 13 16 66 396 594 792
400×200 404 201 9 15 16 * 75.5 453 679.5 906
400×300 386 299 9 14 22 * 94.3 565.8 848.7 1131.6
400×300 390 300 10 16 22 107 642 963 1284
450×200 446 199 8 12 18 * 66.2 397.2 595.8 794.4
450×200 450 200 9 14 18 76 456 684 912
450×200 456 201 10 17 18 * 88.9 533.4 800.1 1066.8
450×300 434 299 10 15 24 * 106 636 954 1272
450×300 440 300 11 18 24 124 744 1116 1488
450×300 446 302 13 21 24 * 145 870 1305 1740
500×200 496 199 9 14 20 * 79.5 477 715.5 954
500×200 500 200 10 16 20 89.6 537.6 806.4 1075.2
500×200 506 201 11 19 20 * 103 618 927 1236
500×300 482 300 11 15 26 * 114 684 1026 1368
500×300 488 300 11 18 26 128 768 1152 1536
500×300 494 302 13 21 26 * 150 900 1350 1800
600×200 596 199 10 15 22 * 94.6 567.6 851.4 1135.2
600×200 600 200 11 17 22 106 636 954 1272
600×200 606 201 12 20 22 * 120 720 1080 1440
600×200 612 202 13 23 22 * 134 804 1206 1608
600×300 582 300 12 17 28 * 137 822 1233 1644
600×300 588 300 12 20 28 * 151 906 1359 1812
600×300 594 302 14 23 28 175 1050 1575 2100
700×300 692 300 13 20 28 * 166 996 1494 1992
700×300 700 300 13 24 28 185 1110 1665 2220
800×300 792 300 14 22 28 * 191 1146 1719 2292
800×300 800 300 14 26 28 210 1260 1890 2520
900×300 890 299 15 23 28 * 213 1278 1917 2556
900×300 900 300 16 28 28 243 1458 2187 2916
900×300 912 302 18 37 28 v 286 1716 2574 3432

หมายเหตุ

* คือ กรุณาติดต่อ เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

v คือ VALUE SERIES

เหล็กไวด์แฟรงค์ เหล็กไอบีม เหล็กเอชบีม ความคล้ายที่แตกต่าง

เหล็กไวด์แฟรงค์ เหล็กไอบีม เหล็กเอชบีม (Wide Flange, I beam, H beam) แตกต่างกันอย่างไร บางคนมักมองไม่เห็นความแตกต่างของเหล็กแต่ละชนิด และ ถ้าหากหน้าตาของเหล็กมีควาามคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันเล็กน้อย ยิ่งทำให้ไม่สามารถแยกเหล็กแต่ละชนิดออกได้ และไม่สามารถนำไปใช้งานให้ตรงกับลักษณะงานก่อสร้างของตนเองได้เช่นกัน ดังนั้น เรามาศึกษาวิธีการแยกความแตกต่างของเหล็กแต่ละชนิดสามารถทำได้ ดังนี้

เหล็กไวด์แฟรงค์ WIDE FLANGE
เหล็กเอชบีม H BEAM
เหล็กไอบีม I BEAM
  • เหล็กไวแฟรงค์ WF จะมีลักษณะเด่นตรงที่ ความกว้างของแผ่นเหล็กตรงกลางจะมากกว่าปีกทั้งที่ข้าง และ มีความหนาเท่ากันตลอดทั้งแผ่น เหล็กโครงสร้างชนิดนี้จึงมีเนื้อเดียวกัน ไม่มีรอยเชื่อมระหว่างส่วนต่างๆ เหมาะสำหรับงานก่อสร้าง เสา คาน โครงสร้างหลังคา นิยมในงานโครงสร้าง ซึงนำมาใช้แทนโครงสร้างคอนกรีต เพราะการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน ลดขั้นตอนการทำงาน การดูแลรักษาที่ทำได้ง่ายกว่า และมีสไตล์ที่โดดเด่นกว่า
  • เหล็กเอชบีม เหล็ก ตัว H ลักษณะเด่นคือ ปีกมีความกว้างเท่ากันกับความกว้างของแผ่นตรงกลาง ดีไซน์ลักษณะของตัวเหล็กเป็นรูปตัวเอช นิยมใช้ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์ เพราะลักษณะเฉพาะตัวที่สวยงามเป็นเทรนด์ก่อสร้างที่ทันสมัย แข็งแรงคงทน เป็นโครงสร้างหลักได้ดี ควรค่าแก่การลงทุน
  • เหล็กไอบีม เหล็กตัวไอ จะมีลักษณะของ ปีกบนและปีกล่างเป็นแผ่นเอียง ความหนาของเหล็กมากกว่า เพื่อสามารถรับแรงกระแทกได้ดี เหล็กโครงสร้างชนิดนี้จึงมีเนื้อเดียวกัน มีน้ำหนักต่อเมตรสูงกว่า H-Beam เหมาะสมกับงานก่อสร้างที่รับน้ำหนักมาก รับแรงกระแทกสูง เหมาะสมกับงานที่เฉพาะเจาะจง เช่น รางเลื่อนของเครนในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะมีความหนามากกว่าเหล็กชนิดอื่น จะนิยมนำไปทำรางเคนยกของที่มีน้ำหนักมาก

OUR CUSTOMER

เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในส่วนของภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนโครงการต่างๆ มากมาย เป็นความภาคภูมิใจ ในการพัฒนาองค์กรของเราให้มั่นคงมากยิ่งขึ้น